7/23/2554
หญิงท้องชาวอังกฤษ เสพติดน้ำยาเคลือบเงา
เป็น เรื่องที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ ว่าคนท้องมักจะมีความอยากแปลก ๆ บางครั้งก็อยากกินของที่ตลอดชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยลิ้มลองด้วยซ้ำ บ้างก็อยากกินอาหารแปลก ๆ แถมบางคนอยากกินของที่ไม่ใช่อาหารด้วยล่ะ อย่างว่า ที่คุณแม่ท้องรายนี้ก็เช่นกัน นางเอ็มม่า เวเนส วัย 26 ปี เกิดนิสัยประหลาด เสพติดการกินน้ำยาเคลือบเงาเฟอร์นิเจอร์ขึ้นมาซะอย่างนั้น !
เว็บไซต์เดลิเมล ของอังกฤษ รายงานถึงความอยากประหลาด ๆ ที่ทำให้นางเอ็มม่า คุณแม่จากเมืองเบอร์มิงแฮม ถึงกับต้องกินน้ำยาเคลือบเงาวันละ 3 ครั้งเลยทีเดียว แม้จะวิตกว่าสิ่งที่เธอกินเข้าไปจะส่งกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ แต่เธอก็ไม่สามารถหักห้ามความอยากของตัวเองได้
โดยนางเอ็มม่า กล่าวว่า นิสัย ประหลาดอย่างกินของที่ไม่ใช่ของกินนั้น มีมาตั้งแต่ตอนเด็ก ที่เธอเคยกินฟองสบู่ในอ่างอาบน้ำ ซึ่งนั่นก็อาจเป็นพฤติกรรมแบบเด็ก ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อโตขึ้น เธอเริ่มสังเกตตัวเองว่าชอบกลิ่นของน้ำยาทำความสะอาดเอามาก ๆ โดยเฉพาะกลิ่นของสบู่ล้างมือแบบยับยั้งแบคทีเรีย และอาการประหลาดก็เริ่มเป็นหนักขึ้นเมื่อเธอตั้งท้องดาร์ซี่ ลูกสาวคนแรก ซึ่งปัจจุบันนี้อายุ 11 เดือน นับจากนั้นเธอเริ่มหลงใหลกลิ่นของน้ำยาเคลือบเงาเฟอร์นิเจอร์เป็นครั้งแรก และมักจะแอบดมกลิ่นจากผ้าที่ใช้ชุบน้ำยาเหล่านี้เพื่อขัดเงาเฟอร์นิเจอร์ แต่เธอก็ยังไม่เคยลองกินมัน จนกระทั่งเอ็มม่าตั้งท้องลูกคนที่สอง ซึ่งมีกำหนดคลอดในเดือนตุลาคม คราวนี้อาการของเธอหนักกว่าเดิมเอาเสียมาก ๆ เมื่อเธอถึงกับกินน้ำยาเคลือบเหล่านี้จากกระป๋องเลยทีเดียว
"ฉัน เองก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม แต่ฉันก็หยุดตัวเองไม่ได้ ความรู้สึกเวลามันเข้าไปอยู่ในปากนี่มันบอกไม่ถูกจริง ๆ บางครั้งฉันจะสเปรย์มันที่ปลายนิ้วแล้วแอบชิม หรือบางทีก็แอบเลียจากผ้าเช็ดเฟอร์นิเจอร์ด้วย" นางเอ็มม่ากล่าวถึงพฤติกรรมประหลาดของตัวเอง และเมื่อนายกาวิน วอลลิส สามีของเธอรู้ เขาทั้งหัวเสียและทั้งงุนงงไปในคราวเดียวกัน ด้วยไม่รู้สาเหตุและไม่รู้ด้วยว่าจะหยุดความอยากแปลก ๆ ของเธอนี้ได้อย่างไร
ทั้ง เอ็มม่าและกาวินต่างกังวลว่าสิ่งที่เธอทานเข้าไป อาจส่งผลกระทบต่อลูกในท้อง เธอจึงได้ไปพบแพทย์ ซึ่งเป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป และได้รับคำวินิจฉัยว่าเธอมีอาการของโรคกินของที่ไม่ใช่อาหาร หรือ พิก้า (Pica Diseases) แต่แพทย์ก็ให้คำแนะนำแค่เพียงว่าให้เธอเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โดยเปลี่ยนมากินช็อกโกแลตแทนเมื่อรู้สึกอยากขึ้นมาอีก
แต่เอ็มม่ารู้ดีว่านั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ เพราะเวลาที่เธอรู้สึกอยากขึ้นมา สิ่งที่เธอต้องการก็คือ น้ำยาเคลือบเงาพวกนั้น ไม่ใช่ช็อกโกแลตในตู้เย็น แม้มันจะมีอยู่เป็นร้อยแท่งก็ตาม เอ็มม่ากล่าวถึงความยากลำบากของเธอในการระงับตัวเองไม่ให้เกิดอาการอยาก น้ำยาเหล่านั้นว่า เมื่อไรก็ตามที่เธอหัวว่าง ๆ ไม่ได้วุ่นวายอยู่กับการเลี้ยงดาร์ซี่ แม้จะเป็นเพียงชั่วเวลาแว่บเดียว แต่เมื่อความอยากนั้นผุดขึ้นมาในหัว มันก็ยากที่จะทำให้หายไป และความรู้สึกนี้จะอยู่รุมเร้าเธอไปอย่างนั้น จนกว่าเธอจะได้ลิ้มลองรสชาติของน้ำยาเคลือบเงาสมตามปรารถนา บางคืนเธอถึงกับตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะความรู้สึกอยาก และไม่สามารถข่มตาหลับได้อีกเลยหากเธอไม่ได้ลิ้มรสสิ่งที่เธอต้องการ
"โรคของฉันมันทำให้ฉันรู้ซึ้งถึงความรู้สึกของคนอยากยาจริง ๆ เพราะอาการของฉันก็คงไม่แตกต่างอะไรกับพวกเขามากนัก" เธอ กล่าว และสิ่งที่เอ็มม่าต้องการที่สุดในตอนนี้ก็คือ ใครสักคนที่สามารถช่วยเหลือและให้คำแนะนำเธอได้ แต่ก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะคนทั่วไปไม่รู้ด้วยซ้ำว่า โรคพิก้า หรือ กินของที่ไม่ใช่ของกินนี้คืออะไร
ตัวแทนจาก บีท (Beat) มูลนิธิการกุศลที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาจากโรคพิก้า ได้ออกมากล่าวว่า เหล่า แพทย์ควรหันมาหาความรู้และให้ความสำคัญกับโรคนี้มากกว่าเดิม เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ทุกข์ทรมานจากการกินของที่ไม่ใช่อาหาร รวมทั้งพฤติกรรมผิดปกติที่เกิดจากการกินอื่น ๆ
โดย โรคกินของที่ไม่ใช่อาหารนี้ หรือ พิก้า นี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอย่างแน่ชัด อย่างไรก็ตามด้วยอาการของโรคไม่ถือว่าเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย จนกว่าผู้ป่วยจะไปกินสิ่งของซึ่งมีพิษ หรือสิ่งของอื่นที่อันตราย เช่น ของมีคม หรือโลหะที่มีสนิมขึ้น เป็นต้น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น