3/01/2557

"Shake" ภาพช็อตเด็ดสุดฮา! น้องหมาสะบัดหน้า

http://carlidavidsonphotography.com/
http://www.ufunk.net/en/photos/shake-carli-davidson/

10อันดับ สุดยอดภาพลวงโลกที่คุณจะต้องตะลึง

10.) ประติมากรรมกำกวมของ Guido Moretti

นักประติมากรรมชาวอิตาลีที่ชื่นชอบรูปทรงผู้นี้ได้สร้างสรรค์ผลงาน ที่น่าทึ่งนี้ขึ้นมา โครงเหล็กนี้สามารถมองเห็นเป็นรูปร่างจากด้านหน้า และเมื่อคุณหันไปมองจากด้านข้าง จะสามารถมองเห็นเป็นอีกรูปหนึ่งที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งนอกจากชิ้นนี้แล้วเขายังสร้างผลงานประเภทนี้ขึ้นมาอีกหลายต่อหลายชิ้น

9.) กังหันหมุน...ที่ไม่หมุน!

ถ้าคุณมองภาพกังหันสีสวยนี้ซักพัก คุณจะรู้สึกว่ารูปกังหันนี้จะหมุนได้นิดหน่อย ทั้งๆ ที่จริงแล้วนี่เป็นภาพนิ่งธรรมดาเท่านั้น ... เชื่อไหมล่ะ?

8.) คานดีด-คานงัด

จากภาพคานสีขาวที่ตั้งในแนวระนาบ ถ้าเอาลายเส้นแนวทะแยงมาใส่เข้าไป จะทำให้รู้สึกว่าปลายคานทางด้านขวานั้นถูกกดให้ต่ำกว่าทางด้านซ้ายได้อย่าง น่าอัศจรรย์ ศิลปินนิรนามผู้นี้ได้ยังได้ทำเป็นภาพ GIF เพื่อให้เห็นปรากฏการณ์นี้กันอย่างจะๆ ... ถ้าคุณยังไม่เชื่ออีก ก็ลองวาดดูเอาเองก็ยังได้

7.) น้ำตาของพระแม่ธรณี

ช่างภาพ Michael Nolan ได้ถ่ายภาพที่ปราศจากการตัดต่อที่ธารน้ำแข็งในสแกนดิเนเวีย ภาพที่ดูราวกับหน้าคนที่กำลังโศกเศร้านี้เกิดขึ้นจากน้ำแข็งละลายและธารน้ำ ที่ไหลผ่านเท่านั้น และเป็นหนึ่งในภาพลวงตาที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นเองในธรรมชาติ


6.) วีดีโอมายากล “แก้ว กับ ลูกบอล” (มานไม่มีภ่าพอ่าค่ะขอโทษน๊า)

ทีมงานชาวโรมาเนียที่ใช้ชื่อว่า :weareom: ใช้เวลาเกือบ 48 ชั่วโมงในการจัดฉากเพื่อทำการถ่ายทำมายากลผสมภาพลวงตานี้ขึ้น ผลที่ได้ก็คือหนึ่งในภาพลวงตาเคลื่อนไหวที่แนบเนียนที่สุดอันหนี่ง ตอนแรกเมื่อดูๆ ไปคุณอาจจะรู้สึกว่านี่ก็เป็นแค่การเล่นกลธรรมดาๆ เท่านั้น แต่เมื่อดูไปจนเกือบจบ คุณจะต้องสะดุ้งด้วยความรู้สึกว่า “เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้น” หรือ “ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” และขอย้ำอีกครั้ง ว่าที่คุณเห็นทั้งหมดนั้นเป็นภาพลวงตา หาใช่มายากลใดๆไม่

5.) อย่าคิดมาก! มันเป็นแค่...

คุณคนหนุ่มๆ คิดว่าคุณเห็นอะไรในภาพนี้? .... คุณคิดว่ามันเป็นอย่างที่คุณคิดหรือเปล่า? ... ถ้าคุณคิดว่าใช่ละก็ คุณคิดมากเกินไปแล้ว ... มันเป็นแค่ ... กระดาษธรรมดาแผ่นหนึ่งเท่านั้นเอง!! ... คิดมากไปได้ (ฮ่า ฮ่า)

บอกแล้วไงว่ามันเป็นแค่กระดาษแผ่นหนึ่งเท่านั้นเอง ... คิดอะไรไม่เข้าท่า :-)

4.) รถ Audi R8 ลวงตา

คุณคิดว่ารถ Audi ทั้ง 3 คันในรูปนี้ คันไหนใหญ่ที่สุด? ...หรือทั้ง 3 คันนี้ใหญ่เท่ากัน? คิดแล้วลองดูคำตอบจากภาพเฉลยข้างล่างนี้ได้เลย ... ตรงกับที่คุณคิดหรือเปล่าล่ะ?

3.) ภาษารัสเซียลวงตา

ป้ายที่ดูจะเขียนด้วยภาษารัสเซียนี้ดูไม่มีอะไรพิเศษ จนกระทั่งเมื่อคุณมองมันบนกระจกเงา คุณจะพบว่ามันไม่ใช่ภาษารัสเซียเลยซักนิด!!

2/04/2557

เครื่องบินที่เราเห็นกัน มันบินขึ้นไปเรื่อยๆจนออกนอกโลกได้ไหม?



เคยสงสัยไม๊ครับว่า เนี่ย... มันบินสูงขึ้นไปเรื่อยๆจนออกนอกโลกไปเลยได้รึเปล่า? ถ้ามันทำไม่ได้(เพราะไม่เคยเห็น) มันติดเรื่องอะไรกัน?
ก่อนจะตอบคำถามนี้ ต้องเข้าใจว่าเครื่องบินบินได้อย่างไรก่อนสักนิดครับ... เครื่องบินทั้งหมดที่เราเห็นกัน บินได้เพราะมีปีกครับ... ปีกเครื่องบินนั้นจะถูกออกแบบมาให้มีลักษณะพิเศษ คือมีความโค้งด้านบนมากกว่าด้านล่าง ลักษณะพิเศษนี้จะทำให้อากาศที่ไหลผ่านปีกนั้น ไหลผ่านด้านบนปีกไปเร็วกว่าด้านล่าง(เหตุผลและหลักการนั้นยืดยาวน่าปวดหัว เอาไว้ยังไม่เล่าดีกว่า...) ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้อากาศด้านบนที่ไหลไปเร็วกว่า มีความดันลดลง ดูดให้ปีกลอยขึ้น และมีอากาศด้านล่างที่ไหลไปช้ากว่า มีความดันมากกว่า คอยหนุนปีกไว้อีกแรง... สรุปก็คือ เครื่องบินบินได้ เพราะอากาศที่ไหลผ่านปีกออกแรงยกปีกไว้นั่นเองครับ
ทีนี้ความจริงก็คือ เมื่อเครื่องบินบินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ อากาศก็จะบางลง บางลง... เมื่ออากาศบางลง ก็ออกแรงกับปีกได้น้อยลง จนเครื่องบินบินขึ้นไปจนถึงความสูงระดับหนึ่ง อากาศก็ไม่หนาแน่นพอจะออกแรงยกปีกได้อีกต่อไป น้ำหนักเครื่องบินกับแรงยกจากปีกก็สมดุลกัน ทำให้ไต่ระดับขึ้นไปสูงกว่านี้อีกไม่ไหว ดังนั้นคำตอบก็คือ เครื่องบินธรรมดาๆ ไม่สามารถบินจนออกไปนอกโลกได้ ด้วยสาเหตุนี้นั่นเองครับ
By ษัษฐา ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา

1/15/2557

สุดซึ้ง พี่ชายอายุุ 12 เอาตัวบังน้องสาว ยอมถูกรถชนแทน



ดูคลิปข่าว>>http://news.bugaboo.tv/watch/100111

กรณีของพี่ชายที่เอาตัวเองเป็นกำบังน้องสาวอายุ 7 ขวบที่กำลังจะถูกรถชน จนกระทั่งฝ่ายพี่ชายถูกรถชนจนได้รับบาดเจ็บ

เป็นเรื่องราวของพี่ชายอายุ 12 ขวบ ที่พาน้องสาว 7 ขวบ เดินทางกลับจากโรงเรียน ลงรถเสร็จก็กำลังจะข้ามถนน ปรากฏว่าไปถูกรถชนที่บริเวณปากซอย 4 ถนนเศรษฐกิจ หมู่ 5 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นภาพที่ได้มาจากไทยรัฐที่มีการเผยแพร่เรื่องราวนี้ออกมา เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบน้องคนหนึ่งที่มีเลือดออกบริเวณใบหน้า

ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุ พบ ด.ช.สุเมธ กุลประสาร อายุ 12 ขวบ นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนธรรมวาที นอนสภาพขาขวาหัก ท้ายทอยปูดบวม มีเลือดออกทางจมูกและหู อยู่กลางถนน แล้วมีพลเมืองดีช่วยอุ้มร่างขึ้นไว้บนเกาะกลางถนน โดยมี ด.ญ.ธนพร กุลประสาร อายุ 7 ขวบ น้องสาว นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนเดียวกัน ยืนร้องไห้อยู่ใกล้กัน พบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเลือดหมู ทะเบียน บร 4557 ชลบุรี ด้านหน้ารถมีรอยยุบจอดอยู่ โดยมี นายคณา ทับทิมน้อย อายุ 23 ปี คนขับรถกระบะยืนอยู่ข้างรถ

สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เผยว่า ด.ช.สุเมธกับน้องสาว นั่งรถสองแถวจากโรงเรียนมาลงที่ปากซอย 4 และจะเดินข้ามถนนเพื่อกลับบ้านอยู่ในซอย 7 ทุกวัน วันนี้ขณะทั้ง 2 เดินข้ามถนน รถกระบะคันดังกล่าววิ่งมา เบรกไม่ทัน และก่อนที่จะพุ่งชน ด.ช.สุเมธ ได้กอดน้อง แล้วเอาร่างตัวเองบังจนตัวเองถูกชนขาหัก ส่วน นายคณา ทับทิมน้อย คนขับรถกระบะ เจ้าหน้าที่คุมตัวไปสอบสวน ดำเนินคดีขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสต่อไป


Cr : http://www.dek-d.com/board/view/3120211/

1/09/2557

ราชบัณฑิตยฯ พิมพ์ศัพท์ใหม่ กับการเอามาใช้ในวรรณกรรม

 ศัพท์ที่ว่านั้นก็เช่น "เกรียน" "ขั้นเทพ" "กดไลค์" "มาคุ" "สุดซอย" ฯลฯ ถ้าใครอยู่กับอินเทอร์เน็ตบ่อยๆ คงพอเข้าใจความหมายของคำพวกนี้และที่มา แต่ถ้าใครไม่รู้ก็ลองซื้อมาอ่านหรือคลิกที่รูปเพื่ออ่านเนื้อหาได้เลย (ตอนนี้มี 3 เล่ม เล่มที่ 4 กำลังจะพิมพ์)

ราชบัณฑิตยฯ พิมพ์ศัพท์ใหม่ กับการเอามาใช้ในวรรณกรรม      ราชบัณฑิตยฯ พิมพ์ศัพท์ใหม่ กับการเอามาใช้ในวรรณกรรม      ราชบัณฑิตยฯ พิมพ์ศัพท์ใหม่ กับการเอามาใช้ในวรรณกรรม
 
            พจนานุกรมคำใหม่เขารวมคำศัพท์แบบไหนไว้บ้าง
 
  1. คำที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์บางอย่างในสังคม เช่น "กระชับพื้นที่" คำนี้ดังมากๆ ช่วงเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองปี 2552 เป็นคำที่อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ใช้เพื่ออธิบายการวางกำลังเจ้าหน้าที่ล้อมผู้ชุมนุมเพื่อไม่ให้ขยายการชุมนุมเป็นวงกว้างออกไป (งดคอมเม้นต์การเมืองนะเออ นี่แค่ยกตัวอย่าง)
     
  2. คำที่มีความหมายเพิ่มเติมเมื่อเวลาผ่านไป เช่น "ยกเครื่อง" ในอดีตมันแค่ใช้กับการซ่อมรถ แต่ปัจจุบันเราใช้กับการรื้ออะไรแล้วเปลี่ยนใหม่หมด เช่น ศัลยกรรม หรือปฏิรูปองค์กรแบบยกเครื่อง

  3. คำแสลง หรือสำนวนติดปาก เช่น "ชิว" คำนี้มาจาก chill-out ในภาษาอังกฤษที่แปลว่าทำตัวสบายๆ คำนี้แม้แต่ในภาษาอังกฤษก็เป็นภาษาพูด เอาไปเขียนรายงานไม่ได้นะเออ

  4. และคำเก็บตกอื่นๆ ที่เขาอาจจะไม่ได้ใส่ในพจนานุกรมฉบับก่อนๆ หรือคำที่ไม่มีตัวอย่างให้

           ทีนี้มาเข้าเรื่องของเราดีกว่า ในฐานะนักเขียน "ศัพท์ใหม่" พวกนี้สำคัญกับเราอย่างไร

           จริงๆ แล้วงานเขียนก็ถือเป็นงานศิลปะแขนงหนึ่ง และงานศิลปะมันไม่มีขอบเขตหรือข้อกำหนดใดๆ เราอยากจะใส่อะไรลงไปในงานเขียนก็ได้ (แต่ได้ตีพิมพ์หรือเปล่าอีกเรื่องหนึ่ง) ถ้าน้องๆ อยากจะใช้ emoticon ในนิยายของตัวเอง ในแง่ศิลปะมันก็ไม่ได้หมายความว่างานนั้นไม่ดี แต่งานที่ออกสู่สาธารณะมันจะโดน "คนในสังคม" ประเมินค่าให้เป็นเรื่องธรรมดา ถ้านักอ่านส่วนใหญ่ไม่ชอบ emoticon เพราะเห็นว่ามันไม่มีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ใดๆ งานเราก็จะไม่ได้คะแนนจากสังคมไปโดยปริยาย

           เช่นเดียวกันกับศัพท์ใหม่เหล่านี้ การที่ราชบัณฑิตยสถานทำพจนานุกรมศัพท์พวกนี้ออกมาไม่ได้หมายความว่าเราเอาศัพท์พวกนี้ไปเขียนนิยายได้แล้วนะ แต่มันเป็นแค่การ "รวบรวมศัพท์ใหม่" เพื่อใช้อ้างอิงความหมายเท่านั้น หลายคำในนั้นเป็นภาษาแชท หรือภาษาแสลงที่ไม่ได้รู้ความหมายไปทุกคนด้วยซ้ำ

           ถามว่าศัพท์พวกนี้ใช้ในนิยายได้ไหม? คำตอบคือ...
 
  • ได้ ถ้าเราไม่จริงจังกับการมีผลงานตีพิมพ์
  • ได้ ถ้าเราไม่คาดหวังว่าทุกคนต้องอ่านเรื่องของเรา
  • ได้ ถ้าเราทนรับกระแสกดดันจากคนที่ผ่านมาอ่านเรื่องของเราได้
          
           เพราะการเขียนให้ตัวละครพูดภาษาแชทมากเกินไป เช่น
 

"คิดถึงจุงเบยนะคริคริ" เธอกล่าวเสียงหวาน
"หลับฝันดีนะครัช" เขากล่าวตอบพร้อมรอยยิ้ม

          
           ประการแรกจะทำให้คนอ่านที่ไม่รู้ความหมายของคำพวกนี้หรือไม่รู้ที่มาเข้าใจว่าเราพิมพ์ผิด หรือเข้าใจความหมายผิด เช่น 'ครัช' เป็นชื่อนางเอกหรือเปล่า 'จุงเบย' เป็นชื่อพระเอกแสดงว่าพระเอกเป็นคนเกาหลีสินะ

           ประการต่อมา สำนักพิมพ์ทั้งหลายยังยึดเกณฑ์การใช้ภาษามาตรฐานในการพิจารณาผลงานตีพิมพ์อยู่ คำว่า "มาตรฐาน" ก็คือ "ขายได้" งานเขียนแบบนี้อาจขายได้กับวัยรุ่นเฉพาะกลุ่มมากๆ และบางทีสำนักพิมพ์อาจโดนตั้งคำถามถึงการผลิตงานที่ไม่ถึงเกณฑ์ "มาตรฐาน" แบบนี้ออกมา

           ประการสุดท้ายก็คือคนอ่านอย่างเราๆ นี่แหละ เวลาเราเลือกซื้อหนังสือสักเรื่อง นอกจากพล็อตเรื่องที่นักเขียนบรรจงปรุงแต่งออกมา เราก็อยากจะอ่านสำนวนภาษาที่เราไม่รู้สึกว่า "พิมพ์ออกมาง่ายๆ" แต่เราอยากเห็นอะไรที่ผ่านการกลั่นกรองแล้วล้านรอบ การเลือกใช้คำที่นักเขียนเท่านั้นถึงจะทำได้ ให้คุ้มกับเงินหลายร้อยบาทที่เราควักออกมาจากกระเป๋าแฟบๆ สักหน่อย

           ศัพท์ใหม่พวกนี้ โดยเฉพาะที่เป็นแสลง เช่น จุงเบย ชิมิ ครัช อาจสร้างความหงุดหงิดที่ง่ามนิ้วให้กับคนอ่าน และทำให้พวกเขามองคนใช้ในแง่ลบได้ (เคยเป็นประเด็นมาแล้วแม้แต่ในกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเอง)

           ดังนั้นถ้าเราอยากให้งานเราเป็นงานที่ใครก็อ่านได้ จะนักธุรกิจหรือลุงขายข้าวมันไก่ก็อ่านเข้าใจ ควรเลือกใช้คำที่เป็นกลางที่สุด อย่าตามกระแสมากเกินไป ยิ่งหลายคำอาจมาแล้วไป ฮิตได้แป๊บเดียวก็เลิกฮิต ถึงตอนนั้นนิยายเราก็กลายเป็นของล้าสมัยทันทีเพราะใช้คำที่คนเขาเลิกใช้ไปแล้ว

           อย่างไรก็ดี...ถ้าเราอยากจะนำเสนอสังคมวัยรุ่นในปัจจุบันที่มีการใช้ศัพท์ใหม่ๆ ทำให้มันเป็นประเด็นของนิยายขึ้นมา การใช้คำพวกนี้ก็คงเลี่ยงไม่ได้ แต่คนอ่านเขาก็จะรู้ว่าเราใช้ภาษาแชทเพื่อเปรียบเทียบ เพื่อเป็นประเด็น ไม่ได้ตั้งใจจะใช้ภาษานี้ในนิยายจริงๆ




12/20/2556

10 เรื่องลับเกี่ยวกับ " ยาคูลท์ "

10. ยาคูลท์กำจัดกลิ่นหอยเปรี้ยว

ความเชื่อที่ว่า ดื่มยาคูลท์แล้ว ช่วยกำจัดกลิ่นจากจุดซ่อนเร้น เนื่องจากเชื่อกันว่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ชื่อว่า “แลคโตบาซิลัส” ในยาคูลท์เข้าไปทำลายเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นตัวการในการสร้างกลิ่นเหม็นให้กับหุบเขาเร้นรักของคุณเพื่อนสาวทั้ง หลายได้ ขอบอกตรงนี้ดังๆ ชัดๆ ว่า “มันไม่เป็นความจริงคะ”

9. ว้าวเครื่องสำอางยาคูลท์

กาลครั้งหนึ่ง ณ. 1971 ยาคูลท์นึกเปรี้ยวอยากให้ผู้หญิงญี่ปุ่นงามหมดจรดปลายเท้า สกัดแบคทีเรียพันธุ์ดีอย่างแลคโตบัลซิลัสเป็นเครื่องสำอางครบทุก LINE มีสาวยาคูลท์เคาะประตูขายตรงถึงหน้าบ้านจนกระทั่งขายในซาลอนอย่างเอิกเกริก
หลังจากนั้นอีก 10 ปี เครื่องสำอางสายพันธุ์ยาคูลท์ต้องโบกมือลาหนังหน้าสาวๆ เพราะผู้บริหารอยากจะ FOCUS เฉพาะนมเปรี้ยว-ไม่อยากให้เลอะเทอะไปกว่านี้

8. อุณหภูมิที่ยาคูลท์ลั้ลลา

เลือกซื้อยาคูลท์จากตู้แช่ที่เก็บไว้ในอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส เพราะดีกรีหนาวเยี่ยงนี้จะทำให้ได้จุลินทรีย์ลั้ลลาและพร้อมจะทำงานให้เรา ได้เต็มทีคะ

7. คอคอดบอกอะไร

แค่เห็นเงาก็รู้แล้วว่าเป็นยาคูลท์ เพราะขวดนมเปรี้ยวยี่ห้อนี้ดีไซน์ขวดเป็นเอกลักษณ์สุดๆ โดยเฉพาะ “คอคอด” ซึ่งเชื่อว่าให้ถือสะดวกและลิ้มรสช้าๆ จะได้ไม่ดื่มทีเดียวหมด

6. ยาคูลท์ไทยมีไซส์เดียว

ยาคูลท์รอบโลกมีไซส์ที่แตกต่างกัน เช่นขวดไซส์ 100 มล. เห็นดาดดื่นที่ สิงค์โปร์ ไต้หวัน และจีน แต่ที่นี่ประเทศไทย มีไซส์เดียวตลอดกาลนั่นคือ 80 มล. และขนาดนี้ก็มีขายเฉพาะ เกาหลี มาเลเซีย และอเมริกาเท่านั้น เพราะไซส์นี้มีจุลินทรีย์แลคโตบัลซิลัสมากกว่า 8,000 ล้านตัว เชื่อว่าเพียงพอสำหรับการสร้างสมดุลภายในลำไส้เหมาะกับคนไทย และที่สำคัญ ถ้ากระซวกมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียขี้แตกขี้แตนไม่รู้ตัว

5. อหิวาตกโรค จุดพลิกยาคูลท์ไทย

จุดที่พลิกผันจริง ๆ คือเมื่อปี 2515 เกิดอหิวาตกโรคระบาดแถวปากน้ำ จ.สมุทรปราการ บริษัทยาคูลท์ไทยนำยาคูลท์เพื่อเยียวยาอาการผู้ป่วย ซึ่งตอนนั้นมีที่อาการหนักอยู่ 3 คน ซึ่งถ้าผู้ป่วยจะใช้ยาคูลท์แทนยาจะต้องหยุดดื่มยาทั้งหมด และต้องดื่มยาคูลท์ต่างน้ำปรากฏว่าสามชั่วโมงผ่านไป คนไข้ที่ดื่มยาคูลท์หยุดถ่าย และกลายเป็นกระแส Talk Of The town ณ.บัด Now !

4. ตั้งแถว – ตบมือ – สู้โว้ย

บริษัทยาคูลท์ประเทศญี่ปุ่นมีธรรมเนียมแสนเก๋จนต้องยกนิ้วให้ เพราะพนักงานในบริษัทยาคูลท์ และ พี่ๆ ร.ป.ภ.จะตั้งแถวตบมือทุกครั้ง เมื่อสาวยาคูลท์ญี่ปุ่นออกไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อเรียกขวัญกำลังใจ-สู้ โว้ย

3. ถามสาวยาคูลท์ดูสิคะ

เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อยาคูลท์ในอดีตเป็นแม่บ้าน การมีคนส่งยาคูลท์เป็นผู้หญิงและแนะนำเรื่องสุขภาพให้ผู้หญิงด้วยกันฟังจะทำ ให้รู้สึกสนิทใจกันมากกว่า ประหนึ่งรายการผู้หญิงถึงผู้หญิงนั่งเม้าส์ม้อยส์ เพราะฉะนั้น “สาวยาคูลท์” จึงถือกำเนิดขึ้นมาด้วยเหตุนี้ตั้งแต่ ค.ศ. 1963

2. ยาคูลท์เคยขวดแก้ว

ตั้งแต่ปี 1935 “ยาคูลท์” เคยใช้ขวดแก้วใสกริ้งมาตลอดๆ สรีระของขวดมีแรงบันดาลใจจาก “ Kokeishi” ตุ๊กตาโบราณจนกระทั่งปี 1968 ปรับเปลี่ยนมาใช้ขวดพลาสติกแบบที่เราเห็น ๆ ในปัจจุปันเพราะ “ต้นทุนถูกกว่า” และ “น้ำหนักเบากว่า” ขวดแก้ว-รวมกันหลายขวดก็หลายกิโลทำให้สาวยาคูลท์ในยุคใหม่ไม่ต้องแบกขวดแก้วหนักเกินเหมือนในอดีต!

1. ชื่อเป็น ยา

ยาคูลท์เป็นนมเปรี้ยวสัญชาติญี่ปุ่น 1000% แปลกตรงที่ชื่อไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่นทั้งที่ประเทศนี้ชาตินิยมจัดมาก YAKULT เป็นภาษา Esperanto (ภาษาประดิษฐ์ของหมอรัสเซีย) มาจากคำว่า “Jahurto” มีความหมายเท่ากับ “yoghurt” ซึ่งแปลตรงตัวว่า “การมีอายุยืนยาววววววว”

12/17/2556

คำขวัญวันเด็กปี 57

 สวัสดีครับ ได้แล้วครับคำขวัญวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2557 โดยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มอบคำขวัญวันเด็ก 11 ม.ค.2557 ว่า "กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทย ให้มั่นคง"
ได้แล้ว!! คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2557
ขอบขอบคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
 
"กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทย ให้มั่นคง"

วันเด็กแห่งชาติปีนี้ ตรงกับวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2557